เสริมความฟิตของร่างการ ด้วยการนอน



ท่านเป็นคนหนึ่งที่ชีวิตประจำวันอัดแน่นไปด้วยลิสต์รายชื่อสิ่งที่ต้องทำนานาประการหรือเปล่า ท่านเคยรู้สึกไหมว่าการวิ่งจ๊อกกิ้งที่สวนลุมพินีหรือสวนสาธารณะอื่นๆ อาจไม่ได้ทำให้ท่านรู้สึกดีอย่างเมื่อก่อนแล้ว และเคยคิดไหมว่าทำไมท่านถึงไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการเลือกรับประทานแต่อาหารการกินที่เป็นประโยขน์ และพยายามหลบเลี่ยงฟาสท์ฟู้ดหรือเมนูประจำอย่างข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวขาหมู หรือแม้กระทั่งของว่างกินเพลินๆ อย่างกล้วยทอด นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายของท่านเหนื่อยล้าเกินไป  สิ่งแรกที่ท่านสามารถทำได้เพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเอง นั่นคือให้เวลาตัวท่านเองกับ “การนอนหลับสนิท”

นอกเหนือจากการเลือกรับประทานอาหารที่ดีและการบริหารร่างกายอย่างเป็นกิจวัตร ร่างกายของเรายังต้องการการพักผ่อนหย่อนใจที่ดีและพอเพียงอีกด้วย มิหนำซ้ำการที่เราได้นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนก็ทำให้ร่างกายได้คลายเครียดเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อเรามีตารางชีวิตที่แสนจะอีนุงตุงนัง

หากคราวหน้าที่ท่านอุตส่าห์กำหนดแผนการใช้เวลาในช่วงเย็นซะดิบดีเพื่อจะได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่  แต่ท่านเพื่อนซี้กลับมาชักชวนให้ออกไปเริงร่าตระเวนราตรีกาลที่ทองหล่อ ก่อนจะคล้อยตามไปกับคำชักชวน อยากให้ท่านลองคิดถึงผลเสียจากการไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ สะสมจนกลายเป็นวงจรความเหนื่อยล้าของทั้งร่ายกายและจิตใจ ท่านน่าจะรู้ซึ้งที่สุดว่าเมื่อไหร่ที่พลังงานของท่านกำลังจะหมดลง จริงไหม?

จัดแจงเข้านอนอย่างถูกต้อง
แม้ว่าเราจะชอบรับประทานขนมขบเคี้ยว แต่ก็ควรเลือกรับประทานชนิดที่เป็นประโยขน์และทานให้ถูกเวลาด้วย จริงอยู่ที่เครื่องดื่มที่มีรสหวานอย่างชานมไข่มุกหรือกาแฟเย็นอาจจะเป็นตัวเสริมพลังเวลาที่ท่านรู้สึกเหนื่อย แต่เครื่องดื่มเหล่านี้มีน้ำตาลอยู่มากและมีคาเฟอีนจึงทำให้ร่างกายท่านรู้สึกตื่นตัว การรับประทานขนมอย่างป็อปคอร์น มันฝรั่งทอดกรอบหรือขนมปังกรอบตอนดึกๆ ก็ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง แทนที่จะรับประทานของกินเล่นพวกนั้น ลองเปลี่ยนมาเป็นผลไม้จะดีกว่า

ซาแมนธา เคลย์ตัน ผู้ดูแลฝ่ายการให้การศึกษาด้านฟิตเนสของเฮอร์บาไลฟ์ ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของการสร้างนิสัยการนอนที่ถูกต้องต่อสมรรถภาพทางกายที่เพิ่มขึ้น “การฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายของคนเราไม่ใช่เพียงการไปบริหารร่างกายที่ยิมหรือฟิตเนสเพียงอย่างเดียว การบริหารร่างกายเป็นการสร้างความตึงเครียดให้กับร่างกาย แล้วร่างกายก็จะสนองตอบต่อความตึงเครียดนั้นด้วยการฟื้นฟูและสร้างความเจริญเติบโต ซึ่งจะทำได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกายของแต่ละคน บทสรุปที่ได้ก็คือพัฒนาการทางร่างกายนั่นเอง เพราะเช่นนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมทั้งสารอาหารที่เป็นประโยขน์และการพักผ่อนจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการบริหารร่างกาย รวมถึงกิจวัตรการฝึกซ้อมของนักกีฬา”ซาแมนธายังกล่าวถึง 4 ลักษณะนิสัยที่ดีในการนอน เพื่อช่วยให้เราหลับไหลอย่างมีศักยภาพขึ้นด้วย

1.  สร้างกิจวัตรประจำวันก่อนนอนที่ทำให้รู้สึกสงบ
กิจวัตรประจำวันการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและผลิตภัณฑ์ล้างหน้าตัวโปรด สามารถทำให้อารมณ์ของเราสงบลงเพื่อเตรียมพร้อมสู่การพักผ่อน ทำให้เรารู้สึกราวกับว่าได้ชำระล้างสิ่งสกปรกและความเคร่งเครียดที่สะสมมาทั้งวัน

2.  ห้ามเปิดโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เป็นอันขาด
หลบเลี่ยงการใช้งานคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์หรือการเปิดค้างไว้ เนื่องจากแสงจากหน้าจอของอุปรณ์เหล่านี้จะรบกวนประสาทสัมผัสของร่างกาย ในบางวันที่เรารู้สึกอ่อนเพลียมากๆ เราอาจหลับไปโดยเปิดโทรทัศน์ค้างไว้ แต่อีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เราก็จะถูกเสียงจากโทรทัศน์ปลุกให้ตื่นจากการหลับใหล ลองแทนที่ทีวีหรือคอมพิวเตอร์ด้วยหนังสือดีๆ สักเล่ม หรือฟังเพลงที่ช่วยให้ผ่อนคลาย น่าจะทำให้พักผ่อนของเรามีความสุขมากกว่า

3.  หลีกเลี่ยงอาหารหวานและแอลกอออล์
การรับประทานอาหารรสหวานหรือดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอน จะไปก่อกวนระบบการทำงานของร่างกายและยังอาจทำให้เราตื่นกลางดึกอีกด้วย เราควรหันไปผ่อนคลายร่างกายก่อนนอนด้วยการเล่นโยคะท่าง่ายๆ หรือเริ่มฝึกตั้งสมาธิก่อนเข้านอนก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน

4. ปิดไฟให้มืดมิด
เราควรหลับไหลในห้องที่มืดสนิทเนื่องจากแสงสว่างอาจรบกวนการนอนได้ แสงสว่างยังส่งผลกระทบต่อวงจรการควบคุมการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายตามธรรมชาติ  นอกจากนี้การนอนหลับในห้องที่มืดสนิทและตื่นขึ้นมาสูดอากาศที่ชุ่มชื่นของเช้าวันใหม่ ยังให้ความเข้าใจถึงวิถีธรรมชาติอีกด้วย หากห้องนอนของท่านอยู่ในภาวะแวดล้อมที่มีแสงส่องถึงทุกเวลา หรือท่านทำงานในกะดึกแล้วต้องนอนในช่วงกลางวัน ท่านอาจจะเลือกติดผ้าม่านที่สามารถสามารถกันแสงทะลุผ่านได้ และหากท่านเป็นผู้เดินทางตัวยง ลองหาผ้าปิดตาเวลานอนไปใช้ในทริป เพื่อให้ร่างกายท่านได้ผ่อนคลายอย่างยอดเยี่ยม

No comments:

Post a Comment