ประเพณีนิยมและธรรมเนียมปฏิบัติของชาวจีน

ชาวจีนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีธรรมเนียม สุภาพและมักปฎิบัติตัวตามกฏเกณฑ์ที่ตายตัวแต่ในหลายๆกรณีคนจีนปฎิบัติตัวอย่างที่ต่างชาติรู้สึกว่าไม่สุภาพ และในบางครั้งถึงกับแสดงการเหยียดหยามคนต่างประเทศ โดยเฉพาะฝรั่ง (ที่ชาวจีนเรียกว่า “พวกจมูกยาว”) นักเดินทางบางคนจึงประสบปัญหาในการซักถามข้อมูลจากคนพื้นเมือง หาคุณมีความรู้สึกว่าคนท้องถิ่นไม่สุภาพต่อคุณ ขอแนะนำให้สงบสติอารมณ์ อย่าตะโกนตอบโต้ และพยายามชี้แจงปัญหาหรือคำถามของคุณให้ชัดแจ้งหาก
การรักษาหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างในประเทศจีน ชาวจีนถือว่าการเสียหน้าเป็นเรื่องที่น่าอดสูมาก โดยเฉพาะในกรณีที่อยู่ต่อหน้าชาวต่างชาติ คุณจึงควรระมัดระวังเพื่อที่จะไม่ให้เกิดภาวะที่ทำให้คนท้องถิ่นรู้สึกเสียหน้า หากต้องการเหน็บแนมสิ่งใดขอให้ใช้วิจารณญาณทบทวนดูเพื่อสื่อความหมายอย่างเหมาะสมกับกาละเทศะ
การเรียงชื่อสกุลของชาวจีนตรงกันข้ามกับภาษาไทยคือ ขึ้นต้นชื่อด้วยสกุลเช่น เติ้งเสี่ยวผิง คำว่า เติ้งเป็นชื่อสกุล ส่วนคำว่าเสี่ยวผิง เป็นชื่อตัว โดยปกติชื่อตัวจะใช้เรียกกันเฉพาะในหมู่ญาติและเพื่อนสนิท ดังนั้นคุณจึงควรเรียกผู้ที่เพิ่งรู้จักด้วยชื่อสกุล และควรใช้คำว่า คุณ เพื่อให้สุภาพยิ่งขึ้น เช่น คุณเติ้ง ซึ่งในภาษาจีนคือ เติ้งเซียนเซิง (Deng Xian sheng) ในกรณีที่เป็นชาย หรือเติ้งฟูเหริน (Deng Furen) ในกรณีที่เป็นหญิงที่ตบแต่งแล้ว นอกจากนี้ในบางครั้งยังมีการใส่ตำแหน่งหน้าที่ทางการงานใรการเรียกชื่อชาวจีนอีกด้วย เช่น ผู้จัดการหลี่ คือ หลี่จิ้งหลี (Li jingli) หรืออาจารย์หว่างคือหว่างเจี้ยวโซว (Wang jiaoshoa) คำว่า สหาย ซึ่งใช้นำหน้าชื่อในยุคที่ฝ่ายซ้ายรุ่งเรืองมักไม่ค่อยใช้กันในปัจจุบัน
โดยปกติชาวจีนมักไม่ทักด้วยการจับมือหรือเชคแฮนด์ ถึงแม้จะเป็นกระทำกันในกรณีที่โอภาปราศรัยกับต่างชาติส่วนการกอดหรือจูบเพื่อร่ำลาเป็นสิ่งที่มีน้อยคนปฎิบัติเช่นเดียวกับในประเทศไทยถึงแม้ว่าในปัจจุบันตามเมืองใหญ่ๆ จะมีคู่รักโอบกอดกันในที่สาธารณะอยู่บ้างโดยทั่วๆไป ชาวจีนจะไม่แสดงความรู้สึกและอารมณ์ในที่สาธารณะ ผู้ที่เดินทางในประเทศจีนควรระมัดระวัง ไม่แสดงพฤติกรรมที่ขัดกับบรรทัดฐานของสังคมท้องถิ่น และถึงแม้ว่าในปัจจุบันการแสดงความคิดเห็นจะเปิดกว้างมากขึ้นการสนทนาเรื่องการเมืองยังเป็นสิ่งที่คุณควรพึงระวังเรื่องกาละเทศะอยู่
หากคุณได้รับเชิญไปบ้านของชาวจีน คุณไม่จำเป็นต้องนำดอกไม้ไปเพื่อเป็นของกำนัลแก่แม่บ้านอย่างในจารีตของชาวตะวันตก อย่างไรก็ดีธรรมเนียมนี้เป็นที่ปฎิบัติกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศจีน และควรพึงจำไว้ว่า สีขาวเป็นสีสำหรับงานศพ จึงไม่ควรนำดอกไม้ไปเป็นของกำนัล สุราชนิดต่างๆจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับโอกาสมากกว่า
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับชาวจีน คือการมีเครือข่ายคนรู้จัก เหมือนกับการมีเส้นสายของประเทศไทย กล่าวกันว่าชาวจีนที่ไร้เครือข่ายคนรู้จัก (กวนซี-guanxi) เป็นผู้ที่เป็นจีนเพียงครึ่งเดียว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำความรู้จักกับผู้คนและคอยติดต่อไปมาหาสู่อย่างสม่ำเสมอ ชาวต่างชาติซึ่งทำธุรกิจในประเทศจีนจึงควรให้คความสำคัญต่อวัฒนธรรมนี้ด้วยการเชิญไปพบปะฉลอง และการให้ของขวัญกันเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องตอบแทนกัน การเลี้ยงฉลอง (ซิงเคอ Qingke) เป็นธรรมเนียมจีนเก่าแก่ที่ยังคงปฏิบัติในปัจจุบัน เพื่อเป็นการขอบคุณมิตรสหายที่ได้ความช่วยเหลือหรือเพื่อขยายเครือข่ายคนรู้จักในวงการธุรกิจ และหากคุณได้รับเชิญไปเป็นแขกคุณจะต้องเชื้อเชิญผู้จัดงานที่เคยเชิญคุณเป็นการตอบสนองในโอกาสหน้า การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างในสังคมจีน โดยเฉพาะในการนัดหมายทางธุรกิจ
ชาวจีนจำนวนมากมักดื่มเครื่องดื่มประเภทสุราเป็นธรรมเนียมก่อนทานอาหาร แต่การเมามายในที่สาธารณะจัดว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรในสายตาของชาวจีนทั่วไป สุภาพสตรีส่วนมากไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮออล์หรือดื่มแต่เพียงน้อย และการสูบบุหรี่จัดว่าเป็นพฤติกรรมต้องห้ามสำหรับเพศหญิงอยู่
โดยทั่วๆไปชาวจีนกินค่อนข้างเสียงดังซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ชาวต่างชาติไม่จำเป็นต้องกินเสียงดังตามเพื่อปรับตัวให้เข้ากับคนในท้องถิ่น และในปัจจุบันชาวจีนจำนวนมากโดยเฉพาะตามเมืองใหญ่มักไม่ใคร่ชอบใจท่าทางการกินที่มีเสียงประกอบนัก ในร้านอาหารทั่วไปเศษอาหารและกรดูกจะถูกทิ้งลงพื้นข้างๆโต๊ะอาหาร พฤติกรรมที่เห็นได้บ่อยอีกอย่างคือการขาก ซึ่งในปัจจุบันมีการรณรงค์เพื่อให้ผู้คนเลิกลักษณะนิสัยนี้หากไม่ค่อยเป็นผลนัก ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนควรพึงจำและเตรียมทำใจไว้ว่าเสียงซวบซาบประกอบการกินและการเรอเสียงดังในร้านอาหารเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ใช่เรื่องที่ไม่สุภาพแต่อย่างใด ที่มา : http://merrybrighttravel.com

No comments:

Post a Comment